ลูก : ผม/หนู อึดอัดมากเวลากลับบ้าน ไม่ชอบอยู่บ้านเลย
พ่อ/แม่ : ที่บ้านเรามีพร้อมทุกอย่าง ไม่มีปัญหาอะไร ไม่รู้ทำไมชอบทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา
2 ประโยคที่ผมมักจะได้ยินจาก พ่อแม่-ลูก ที่มักจะพูดคู่กันบ่อย ๆ
ลูกที่มักบอกไม่ได้ว่าตัวเองทุกข์ใจเรื่องอะไร กับคุณพ่อแม่ที่มั่นใจว่าตัวเองจัดสรรทุกอย่างไว้เพียบพร้อมกับลูก แต่ลูกดันทำตัวมีปัญหา
ต้องบอกว่านี้คือปัญหาคลาสสิกที่เจอตลอดเลยครับ...มาตรงนี้ผมอยากชวนให้พ่อแม่ทุกท่านมาดู checklist กันว่าในบ้านของเรามีทุกอย่างที่อบอุ่นเพียบพร้อมจริงหรือไม่
1. สบายใจ
ในบ้านควรเป็นสถานที่ ๆ มีคนพร้อมจะรับฟังกัน โดยที่การรับฟังต้องฟังกันจริงๆ ไม่ใช่แค่บอกว่าพร้อมฟังทุกเรื่อง ขอให้ลูกเล่าเถอะ คะยั้นคะยอให้ลูกเล่าถ้ามีปัญหาอะไร...แต่เมื่อลูกเล่าเสร็จก็พร้อมจะบ่นตลอดเวลา หรือต่อให้ไม่มีเรื่องอะไรก็มักจะบ่นอยู่ตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นย่อมไม่แปลกครับ ที่เล็กๆจะไม่สบายใจที่จะเล่าเรื่องต่างๆ
2. ปลอดภัย
คำว่าปลอดภัยตรงนี้ถ้าทางกายก็คงหมายถึงมีกำแพงบ้านที่แข็งแรงป้องกันโจรผู้ร้ายได้ แต่สำหรับทางใจ คนในบ้านควรรู้สึกปลอดภัย ทั้งปลอดภัยจากการปัญหาความรุนแรงในครอบครัว (พ่อแม่ทะเลาะกับ แล้วลูกเห็นก็สร้างบาดแผลในใจได้นะครับ) ปลอดภัยจากคำพูดทำร้ายจิตใจ การเข้าใจผิด การถูกตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์...หลายๆคนอาจสงสัยว่า แบบนี้พ่อแม่ก็ด่าว่าตำหนิลูกไม่ได้เลยหรอ...คำตอบคือ ได้ครับ! แต่ต้องมีศิลปะ ต้องทบทวนดีดีว่าตำหนิอย่างไรให้เกิดการเรียนรู้ไม่ใช่บาดแผล
3. ไม่ใช่กรงขัง
กรงขังที่หน้ากลัวที่สุดไม่ใช่กำแพง แต่เป็นสิ่งขวางกั่นลูกจากความเป็นตัวของตัวเอง ลูกๆบางคนไม่มั่นใจที่จะทำสิ่งที่อยากทำ เพราะกลัวถูกตำหนิ หรือลูกๆ บางคนถูกกรงที่ชื่อว่า ความคาดหวัง ของพ่อแม่สร้างกรอบจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
3 ข้อนี้ดูเหมือนง่ายนะครับ แต่ทำยากมาก ๆ แต่ยังไงก็ขอฝากให้ลองทบทวนดูนะครับ นอกจากแก้วแหวนเงินทองและโอกาสต่างๆที่เรามอบให้ลูกแล้ว สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
หมอวอป - นพ. ณัฎฐชัย รำเพย